top of page

Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S

  • Writer: Paron Chatakul
    Paron Chatakul
  • Apr 7, 2024
  • 3 min read

Updated: Apr 3

"รุ่นเก่าแต่เก๋ากว่า"

 


สืบเนื่องจากปัญหาความคับแค้นใจเรื่องคุณภาพของภาพที่ได้รับจาก Nikkor Z 180-600 f/5.6-6.3 VR ที่ถ่ายย้อนแสงแล้วภาพฟุ้งมาก โดยเฉพาะภาพนกเดินดงอกเทา ที่หาดูไม่ได้ง่ายนัก ถ่ายมาแล้วได้คุณภาพแบบนี้มันเสียดายเงิน เสียดายเวลา ซึ่งสถานการณ์ประเภทนี้พลาดแล้วอาจจะพลาดเลย เราไม่ใช่นักดูนกมืออาชีพ ไม่ได้มีโอกาสกลับมาอีกบ่อย ๆ กลับมาจากทริปนั้นเอยอุ้มน้องไปคืนแล้วเอา Nikkor Z 100-400 f/4.5-5.6 VR S มาทดแทน (กันไม่ได้) ถึงแม้จะเก่ากว่ามากแต่มี S-line การันตี ก็หวังว่ามันจะให้ภาพที่ดีและน่าสนใจกว่า มาลองกันครับ


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S


ไม่แน่ใจว่ากระแสช่างภาพสมัยนี้จะเป็นอย่างไร แต่ช่วงสิบกว่าปีก่อนที่เล่นคลุกคลีอยู่ในวงการ D-SLR หลากหลายยี่ห้อ เลนส์ช่วง 100-400 ถ้าช่วงซูมเท่านี้เป๊ะ ถ้าเอาค่ายหลัก ๆ สมัยนั้น หลายคนคงนึกถึง Canon ซูมชัก 100-400 ที่คลาสสิกมาก และถ้าจะเอาใกล้เคียงก็จะมี Nikon 80-400 อีกตัว และในความรู้สึกของผมมันก็น่าจะเป็นเลนส์ช่วงที่คนไม่ค่อยซื้อมาใช้กันมากนัก ราคามันค่อนข้างสูงและรูรับแสงค่อนข้างแคบ ส่วนมากก็จะไปช่วงยอดฮิตอย่าง 70-200 มากกว่า หรือถ้าไปสายส่องนกส่องสัตว์ก็ไปเลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวแบบ 300 400 600 มม. ก็ว่ากันไป เลนส์ซูมช่วง 100-400 มม.จึงเหมือนเป็นตัวกลาง ๆ ที่อยากจะถ่ายแบบ 70-200 ก็ได้แต่สู้ไม่ได้เพราะรูรับแสงแคบ จะยิงนกยิงสัตว์ก็สู้พวกเลนส์ Prime ทางยาวโฟกัสเดี่ยวไม่ได้


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S


หลังจากนั้นไม่นาน Tamron กับ Sigma ที่ออกเลนส์ super telephoto zoom แล้วจำได้ว่าดังอยู่คือช่วง 150-600 และช่วงอื่น ๆ ราว ๆ นี้อีกหลายตัว ที่คุณภาพดีมากพอที่จะใช่ถ่ายภาพกันแบบซีเรียสได้ (ก่อนหน้านั้นเท่าที่จำได้ก็เหมือนจะมีเลนส์แนวนี้นะครับ แต่คุณภาพมันยังไม่ได้) ซึ่งตามความรู้สึกตอนนั้นมันก็น่าจะขายได้ดีอยู่ และ Nikon ก็ออกช่วง 200-500 มาอีก ซึ่งถือว่าดีมาก เป็นเลนส์ที่คุ้มค่าตลอดกาลตัวนึงเลย เท่าที่จำความได้ เลนส์ช่วง 100-400 สมัยนั้นไม่ค่อยได้เห็นคนใช้กันสักเท่าไร เจ้า Canon 100-400 ซูมชักตัวเดิมก็ลากขายกันอยู่ในไลน์ผลิตอย่างยาวนาน จนถึงช่วงปี 2016 Panasonic ออก 100-400 ตามด้วย 2017 Tamron, 2017 Sony, 2020 Sigma, และในปี 2021 Canon จึงออก 100-400 f/5.6-8 IS USM  ตัวใหม่ภายใต้เมาท์ RF (ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าพอเป็นเมาท์ RF แล้วทำไมแคนอนมักมีแต่เลนส์รูรับแสงแคบ ๆ) ซึ่ง 2021 ก็เป็นปีเดียวกับที่ Nikon ออก 100-400 f/4.5-5.6 S ตัวนี้มาพอดิบพอดี และถือว่าเป็นเลนส์ช่วง 100-400 ตัวแรกของค่ายด้วยครับ (ถ้าจะไม่นับเจ้า 80-400 น่ะนะครับ) เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วง 7-8 ปีให้หลังมานี้มีเลนส์ช่วงนี้เปิดตัวกันมาเยอะพอควร ส่วนตัวผมคิดว่ามันกลาง ๆ และอเนกประสงค์ดีนะ ซูมได้มากกว่า 200 มม. ไปได้ถึง 400 มม. ซึ่งก็มากพอใช้ ถึงแม้จะไม่มากเท่า Super telephoto ช่วงอื่น ๆ แต่ก็แลกมาด้วยน้ำหนักที่เบากว่าครึ่งนึง


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S


สำหรับใครอยากจัดชุดกล้องแล้วหาเลนส์เทเลดี ๆ สักตัว จากประสบการณ์ที่ถ่ายภาพมาผมว่าต้องตัดสินใจให้ดี เพราะ 70-200 f2.8 กับ 100-400 f4.5-5.6 มันราคาใกล้เคียงกัน (ของ Nikon 100-400 ราคาแพงกว่าด้วย) ผมว่าน้อยคนที่จะซื้อเก็บไว้ทั้งสองตัวเพราะช่วงทับกันค่อนข้างมาก ถ้าคาดว่าจะถ่ายในที่แสงน้อย หรืองาน event ต่าง ๆ บ่อย ๆ ผมเชียร์ให้ไปเอา 70-200 ครับ ถ่ายคนทัศนมิติยังพอไหวหน้าไม่แบนมากจนเกินไป ได้รูรับแสงกว้าง จัดการกับจุดรบกวนในที่แสงน้อยได้ดี ส่วนใครมาสายเที่ยว Outdoor หน่อย ถ่ายกีฬากลางแจ้ง ผมเชียร์ให้มาที่ 100-400 โอกาสได้ภาพสูงกว่า รูรับแสงแคบไม่เป็นไรถ้าสภาพแวดล้อมมีแสงสว่างมากพอ ขนาดและน้ำหนักไม่ต่างกันมากนัก ส่วนพวกที่มาสายสัตว์ป่า นก เลนส์ Prime telephoto ไปเลยจะเข้าทางกว่าครับ เพราะ 400 บางทีถ่ายภาพนกไกล ๆ มันก็ไปไม่ถึงเหมือนกัน

Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S


เลนส์ Nikkor Z 100-400 f/4.5-5.6 VR S ที่หยิบมาทดแทนตัวเดิมอาจไม่ได้ตอบสนองช่วงเทเลที่ไกลขนาดถ่ายนกถ่ายหนูได้ดีเท่าเดิม แต่อย่างน้อยผมเชื่อในคุณภาพของภาพที่ได้มากกว่าซึ่งตรงนั้นเป็น Pain point หลักของผมเลย ส่วนผลพลอยได้คือตัวเล็กลง และน้ำหนักเบาลงครึ่งนึง หน้าเลนส์จาก 95mm ลดลงมาเหลือ 77mm เท่านั้นเอง และข้อดีอีกนิดก็คือได้ความสว่างเพิ่มมาอีกหน่อย จะ 1/3 stop หรือ ½ stop ก็ถือว่าดีกว่า โดยเฉพาะในบางสถานการณ์ที่ต้องเอาไปถ่ายในที่แสงน้อย แค่ 1 stop ก็ให้ผลของภาพที่ต่างกันมาก ๆ แล้วครับ (ลองมีลูก แล้วไปถ่ายลูกแข่งกีฬาในร่มดู จะเข้าใจดีครับ)


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S


ความสนุกของการเดินควงเลนส์ Telephoto ในเมืองคือสามารถถ่ายแนวสตรีท ๆ หน่อยได้โดยที่ตัวแบบไม่รู้สึกตัวครับ


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S + Flat monochrome profile


ภายนอกของเลนส์ตัวนี้การออกแบบไม่ได้มีอะไรพิเศษ จะมีแตกต่างจากปกติที่คุ้นชินอยู่ 2 อย่างคือ จอ LCD ที่ไร้ประโยชน์ กับ Collar ที่ถอดออกไม่ได้นั่นเอง ขออนุญาตพูดถึงตัว Collar นิดนึง มันถอดออกมาทั้งวงไม่ได้ แต่ถอดขาออกมาได้โดยการหมุนปลดล็อกแล้วสไลด์ออกเลย และก็ตามเคยครับ ส่วนที่ผมไม่ชอบก็คือขาตั้งตรง Collar มันสั้น หิ้วเดินไปเดินมาจับไม่ค่อยสะดวก (อันนี้เรื่องส่วนตัวสุด ๆ) สวิตช์ข้างตัวเลนส์มี AF-MF และระยะในการโฟกัสว่าจะ Full หรือ 3m-infinity ปุ่ม L-Fn มีปุ่มเดียวด้านซ้าย ส่วน L-Fn2 มี 4 ปุ่มทุก ๆ 90 องศา กดอันไหนได้กดไปเลยเพราะเป็นปุ่มสั่งงานเดียวกัน ปุ่มพวกนี้ custom กันได้ในเมนูนะครับ ส่วนฮูดที่แถมให้มากับตัวนี้เป็นแบบกลีบดอกไม้ หมุนล็อกโดยมีปุ่มกดปลดล็อกฮูดครับ ภายนอกของเลนส์ 100-400 ทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็ถือว่าดีตามเลนส์ธรรมดา ๆ ตัวหนึ่ง ตรงนี้ยังต้องขอเอ่ยชื่นชม Sigma 150-600 f5-6.3 DG DN OS Sport (https://www.paronya.com/single-post/sigma-150-600-f5-6-3-dg-dn-os-sport) อีกครั้ง เพราะเป็นเลนส์เทเลซูมที่ออกแบบภายนอกได้ประทับใจผู้ใช้งานอย่างผมมากที่สุด ถ้าผมเป็น Nikon ผมจะไปหาซื้อตัวคนออกแบบมา ฮ่ะ ๆ ๆ


เลนส์ตัวนี้ซูมแล้วกระบอกยื่นนะครับ แต่ยื่นออกมานิดเดียวยังรักษาสมดุลของเลนส์เวลาถือถ่ายได้ดี แต่ก็อาจมีคำถามอยู่สักหน่อยว่ามันจะกันน้ำกันฝุ่นได้ดีแค่ไหน ถ้าเปรียบเทียบกับ 180-600 ที่ซูมแล้วไม่ยืด ทุกอย่างรวมจบอยู่ในกระบอกเลนส์ทั้งหมด



คุณภาพของภาพ (Image quality)

ดีจริงจังทั้งความคมและคอนทราสต์ เป็นเลนส์เทเลซูมที่ให้ภาพมีมิติเด้งดีมาก โดยเฉพาะเมื่อมีแสงดี ๆ สักหน่อย ถ่ายแล้วร้องว้าว ราวกับถ่ายด้วย APO Summicron ก็มิปาน ภาพคมดีชนิดที่ว่าเอาใส่ Super resolution ใน Lightroom แล้ว crop มาโชว์กันตามภาพนี้ยังให้ผลเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามด้วยความที่มีหน้าเลนส์ขนาดเล็กในบางกรณีที่ถ่ายแล้วเห็นโบเก้มาก ๆ จะมีการหมุนวนของฉากหลังอยู่บ้าง เป็นเรื่องปกติปกติของเลนส์ราคาถูก (ใช่เหรออออ แต่มันถูกแล้วแหละครับในไลน์ Super telephoto) และตามปกติของเลนส์ซูมระยะนี้ (อีกนั่นแหละ) โบเก้ไม่สวยครับ


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S

Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S

Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S "โบเก้ไม่สวย"


สิ่งที่ได้แถมมากับเลนส์ตัวนี้คือมันสามารถถ่าย close up พอไหวที่อัตราขยายประมาณ 1:2.6 อาจไม่ถึงขั้น macro 1:1 แต่อัตราขยายระดับนี้ถือว่าครอบคลุมการถ่ายภาพได้ดีเลยครับ


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S

Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S


อย่างไรก็ตามเลนส์เทเลมาก ๆ อาจมีข้อจำกัดในการถ่ายภาพบางประเภทอยู่บ้างเนื่องมาจากทัศนมิติที่ค่อนข้างแน่น หากนำมาถ่ายภาพคน หรือสัตว์ อาจทำให้ภาพดูแบนไม่เป็นธรรมชาตินะครับ ยกตัวอย่างหมาหน้าแบนอย่างในภาพนี้


หมาหน้าแบน Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S


โดยรวมถือว่าผมพอใจในคุณภาพของภาพมาก ต่อช่วงกับ Nikkor Z 24-120 f/4 S ได้ดี คุณภาพของภาพอยู่ในระดับเดียวกันสามารถสลับกันใช้ได้อย่างไรรอยต่อโดยที่คาแรกเตอร์ของภาพไม่แตกต่างกัน แต่ติดอยู่นิดเดียวก็คือ 400mm สำหรับผมก็ยังรู้สึกว่ามันไม่สุด ไม่เหมือน 600mm ถ่ายนกถ่ายหนูมันยังไม่สะใจ เราเองก็ใช้แค่ Zf 24mp จะใช้วิธีครอปมาความละเอียดก็เหลือแค่ 10mp ถ้าได้ไปใช้ Z8 ก็คงดีครับ



ภาพจาก Nikkor 100-400 f4.5-5.6 VR S ครอปมาให้ดูกันครับ


สรุปสุดท้ายว่า Nikkor Z 100-400 f/4.5-5.6 VR S เป็นเลนส์ที่ให้คุณภาพดีมาก ถ้าใครจะไป 180-600 ขอให้คิดดี ๆ เรื่องคุณภาพของภาพก่อนถลำลึกลงไปนะครับมาลองเล่นตัวนี้ก่อน ยอมรับจริง ๆ ครับว่าระหว่าง 180-600 กับ 100-400 เป็นสองตัวที่ผมเลือกค่อนข้างยากมาก อย่างไรก็ตามสำหรับ 100-400 S เองก็อาจยังไม่ใช่เลนส์ตัวจบสำหรับสาย Telephoto เพราะระยะมันสุดที่ 400mm f/5.6 แต่มันก็เป็นเลนส์อเนกประสงค์ที่ให้คุณภาพดี การจะไปใช้เลนส์ฟิกซ์ 600mm f/6.3 S  ที่คุณภาพหายห่วงแน่นอนแต่ราคาก็หายห่วงไปด้วย (ประมาณแสนเก้า) หรือจะไป 600mm f/4 TC VR S ที่ราคาเกือบหกแสนก็เลิกคิดไปได้เลย การใช้งานทั่วไปก็ค่อนข้างจำกัดคาดว่าก็ไม่ได้โคจรมาพบกันครับ ก็ได้แต่หวังว่าต่อไปจะได้ใช้เลนส์ซูมแบบระยะจบ ๆ ไปเลย เช่น Nikkor MC 7-1000 f/2 VR S  อะไรแบบนี้ครับ ล้านนึงก็ซื้อครับ สวัสดี


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S

Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S

Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S


Nikon Zf + Nikkor 100-400 f/4.5-5.6 VR S



コメント


bottom of page